แก้วเก็บความร้อนของจีนแล่นออกสู่ทะเล
วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ดูเหมือนธรรมดา แต่จริงๆ แล้วกลับซ่อนโอกาสทางธุรกิจมหาศาลเอาไว้แก้วเก็บความร้อนใช่ คุณได้ยินถูกแล้ว มันคืออุปกรณ์ขนาดเล็กที่สามารถใส่กาแฟ ชา และแม้แต่โกจิเบอร์รี่
เมื่อเร็วๆ นี้ เจ้าตัวน้อยนี้กลายเป็นที่นิยมอย่างมากในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะยอดขายของแบรนด์ YETI และ Stanley ในอเมริกาเหนือที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนดึงดูดความสนใจของทุกคนให้หันมาสนใจธุรกิจแก้วเก็บความร้อนในต่างประเทศ
มาดูชุดข้อมูลกันก่อนดีกว่า
รายงานทางการเงินล่าสุดของ YETI แสดงให้เห็นว่ารายได้ทั้งปีจนถึงสิ้นปี 2023 อยู่ที่ 1.659 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 4.01% จากปีก่อน
กำไรสุทธิสูงถึง 170 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 89.54% เมื่อเทียบกับปีก่อน
โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์แก้วและกาน้ำ มีรายได้เกิน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ และมีอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์ใหม่สูงถึง 12%
นอกจากนี้ จีนยังเป็นผู้ส่งออกแก้วสูญญากาศสแตนเลสรายใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย!
ตั้งแต่ปี 2560 ถึงปี 2566 มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นจาก 1,273 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็น 2,137 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีโมเมนตัมการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
ดูเหมือนว่าแก้วเก็บความร้อนจะกลายมาเป็นนามบัตรสีสันสดใสอีกแบบหนึ่งที่ผลิตในประเทศจีน
แล้วทำไมแก้วเก็บความร้อนจึงได้รับความนิยมในตลาดต่างประเทศ? ประการแรก ได้รับประโยชน์จากอุตสาหกรรมกลางแจ้งในต่างประเทศที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
ไม่ว่าจะปิกนิก ตั้งแคมป์ หรือตกปลา อุปกรณ์เก็บความร้อนก็ได้กลายมาเป็น "มาตรฐาน" สำหรับกิจกรรมกลางแจ้งของอเมริกัน
ประการที่สอง แบรนด์ต่างๆ เช่น YETI และ Stanley ได้ขยายการใช้แก้วเก็บความร้อนเข้ามาในชีวิตประจำวันผ่านกลยุทธ์กลุ่มเยาวชน โดยกลายเป็นส่วนหนึ่งของสินค้าอุปโภคบริโภคที่ขายเร็วและตอบสนองความต้องการทางสังคมและทางอารมณ์ของผู้คน
สำหรับบริษัทจีน กระแสความนิยมในแก้วเก็บความร้อนจากต่างประเทศยังนำมาซึ่งโอกาสมากมายอีกด้วย
การเดินทางของแก้วเก็บความร้อนต่างประเทศไม่เพียงแต่เป็นตัวอย่างย่อของบริษัทจีนที่ก้าวไประดับโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องของความสามารถในการแข่งขันและอิทธิพลของการผลิตของจีนในตลาดโลกอีกด้วย
เนื่องจากความต้องการจากต่างประเทศยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ห่วงโซ่อุปทานถ้วยและหม้อในประเทศจึงได้เข้าสู่รอบการเติบโตใหม่ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับบริษัทจีนบนเวทีระดับโลก
เรามาดูกันดีกว่าว่า Made in China จะโดดเด่นยิ่งขึ้นในตลาดโลกได้อย่างไร!